หลังจากเหตุการณ์การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เพื่อทอดพระเนตรการพัฒนาด้านต่าง ๆ และทรงรับการผ่าตัดรักษาพระเนตรที่ประเทศอังกฤษ แต่เนื่องด้วยพระราชดำริที่ไม่ตรงกันกับรัฐบาลคณะราษฎรหลายประการ และทรงพิจารณาแล้วว่า ไม่ทรงสามารถประสานกับรัฐบาลเพื่อให้บรรลุประโยชน์แก่ปวงชนส่วนรวมได้ จึงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ขณะประทับพักฟื้นพระวรกายที่พระตำหนักโนล กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2477

เมื่อพระองค์ทรงสละราชสมบัติแล้ว ยังคงประทับอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ พระองค์แปรพระราชฐานเปลี่ยนพระตำหนักในอังกฤษหลายครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดและสถานการณ์ ตามลำดับดังนี้ พ.ศ. 2478 ทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนักเกล็นเพ็มเมินต์ (Glen Pammant) ตำบลเวอร์จิเนีย วอเตอร์  (Virginia Water) พ.ศ. 2480 ทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนักเวนคอร์ท (Vane Court) ตำบลบิดเดนเดน (Biddenden) มณฑลเคนท์ (Kent) พ.ศ. 2482 ทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนักคอมพ์ตัน (Compton House) ตำบลเวอร์จิเนีย วอเตอร์  (Virginia Water) ตลอดระยะเวลาที่ทรงประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ทรงดำเนินพระชนมชีพอย่างสงบสุขและสันโดษ และทรงปฏิบัติองค์เยี่ยงสามัญชน

พระองค์ทรงพระประชวรอยู่เนื่อง ๆ อันเนื่องมาจากพระพลนามัยของพระองค์ไม่ทรงแข็งแรงมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ กระทั่งเมื่อ 30 พฤษภาคม 2484 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตด้วยอาการพระหทัยวาย ขณะมีพระชนมายุ 48 พรรษา 6 เดือน 23 วัน สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงจัดการถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างเรียบง่าย ณ ฌาปนสถานโกลเดอร์สกรีน (Golders Green) ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2492 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี จึงทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ  พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกจากท่าเรือเมืองเซาแธมตันโดยรัฐบาลอังกฤษ ตั้งกองเกียรติยศส่งเสด็จ เรือ Willem Ruys นำเสด็จฯสู่สิงคโปร์ และเรือภาณุรังษีของบริษัทอีสต์เอเชียติก ได้นำเสด็จฯ เข้าสู่ประเทศไทยถึงเกาะสีชัง รัฐบาลไทย ซึ่งมีจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรือหลวงแม่กลองไปรับเสด็จที่เกาะสีชัง มาถึงท่าราชวรดิฐ วันที่ 24 พฤษภาคม 2492 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เฝ้าฯ รับเสด็จฯ และอัญเชิญพระบรมอัฐิโดยกระบวนพยุหยาตราใหญ่เข้าสู่พระบรมมหาราชวังประดิษฐานร่วมกับสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่อนุชนรุ่นหลังอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สถาบันพระปกเกล้าจึงได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้มีวันสำคัญเกี่ยวกับพระองค์ว่าสมควรกำหนดให้วันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ คือ วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น “วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2545 โดยให้กำหนดวันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น “วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” อันเป็นวันรัฐพิธีโดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ

พระชนมชีพรัชกาลที่ 7 หลังทรงสละราชสมบัติ

พฤทธิสาณ ชุมพล, ม.ร.ว. (2544). ‘บ้าน’ ไกลบ้าน: ประชาธิปกราชนิเวศน์ในอังกฤษ. รายงานกิจการของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ประจำปี 2543. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.
การวิก จักรพันธุ์, ม.จ., นรุตม์ (เรียบเรียง). (2539). ใต้ร่มฉัตร : หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์. แพรวสำนักพิมพ์.

รัชกร คงเจริญ บรรณารักษ์ สำนักบรรณสารสนเทศ มสธ.

วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรม ...

"วันเกิดราชินี" วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ตรงกับวันที่ 3 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 3 มิถุนายน เป็นวันหยุดราชการประจำปีของไทย โดยปีนี้สำนักพระราชวัง เปิดลงนามถวายพระพรผ่านเว็บไซต์หน่วยรายการในพระองค์

พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี คู่พระบารมีรัชกาลที่ 10

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2521 มีพระนามเดิมว่า สุทิดา ติดใจ ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2543 ก่อนที่จะทรงเข้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของการบินไทย เมื่อปี พ.ศ.2546 - พ.ศ.2551 หลังจากนั้น ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ทรงดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ)

"วันเกิดราชินี" 3 มิถุนายน วันเฉลิมฯ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี
 

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส และสถาปนาพลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา เป็น "สมเด็จพระราชินีสุทิดา" ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศ ฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์

ต่อมา พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ จัดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสุทิดาขึ้นเป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี"

ทางสำนักพระราชวัง เชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 3 มิถุนายน 2565 ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ https://wellwishes.royaloffice.th

 อาจเป็นรูปภาพของ 4 คน และ ข้อความ

วันรพี 7 สิงหาคม

7 สิงหาคม "วันรพี"

วันรพี

           วันรพี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่ง กฎหมายไทย" เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ และทรงวางระบบแบบแผน ศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติ 
          ชื่อของวันรพีมาจากพระนามเดิมของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ คือ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๑๔ ในสมเด็จพระปิยมหาราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ โดยประสูติจากเจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๔๑๗
          ด้วยพระปรีชาสามารถอันเป็นอัจฉริยะประกอบกับพระวิริยะอุตสาหะของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศไทยเป็นเอนกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการกฎหมายไทย กล่าวคือทรงปรับปรุงศาลยุติธรรมสู่ระบบใหม่ ทรงตรวจชำระสะสางกฎหมาย ทรงตั้งโรงเรียนกฎหมายเพื่อเปิดการสอนกฎหมายครั้งแรก ทรงรวบรวมและแต่งตำราคำอธิบายกฎหมายลักษณะต่าง ๆ มากมาย ทรงเป็นกรรมการตรวจตัดสินความฎีกาซึ่งทำหน้าที่ศาลสูงสุดของประเทศ ทรงตั้งกองพิมพ์ลายมือขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ สำหรับตรวจลายพิมพ์ นิ้วมือผู้ต้องหาในคดีอาญาอันเป็นจุดเริ่มต้นของการพิสูจน์ลายมือที่กรมตำรวจในปัจจุบันนอกจากนั้นในขณะดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิราช ทรงปรับปรุงกิจการกรมทะเบียนที่ดินให้เจริญก้าวหน้าเป็นอันมาก
          พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ ผู้ยึดมั่น ในความซื่อสัตย์สุจริตอย่างยิ่งยวด ทรงถือว่าความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะสำหรับนักกฎหมาย และทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายและเป็นผู้สอนวิชากฎหมายด้วยพระองค์เอง เพื่อที่จะให้มีผู้รู้กฎหมายมากขึ้น ทรงจัดวางระเบียบศาลยุติธรรมสู่ระบบใหม่ ทรงรวบรวมกฎหมายและคำพิพากษาฎีกาพร้อมแต่งตำราอธิบายกฎหมายต่าง ๆ มากมายการค้นคว้ารวบรวมและพระนิพนธ์ได้เป็นรากฐานก่อตั้งการศึกษานิติศาสตร์ขึ้นในประเทศไทยอันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติจึงทรงได้รับยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย" และเรียกวันที่ ๗ สิงหาคม อันเป็นคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ทุกปีว่า "วันรพี"

 


https://arit.kpru.ac.th/?page_id=550&lang=TH

วันที่ 28 กรกฎาคม ของทุกปี เป็น วันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอ
รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี

ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศต่างร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผ่านกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและจิตอาสาอย่างพร้อมเพรียง


🔹 พระราชประวัติ โดยสังเขป

  • พระปรมาภิไธย: พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

  • พระนามเดิม: สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ

  • ประสูติ: วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

  • เป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

  • เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

  • ทรงได้รับการเฉลิมพระปรมาภิไธยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562


🔹 พระราชกรณียกิจที่สำคัญ

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และทรงแสดงพระวิริยะอุตสาหะในหลายด้าน อาทิ

  • ส่งเสริมงานจิตอาสา "เราทำความดีด้วยหัวใจ"

  • การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และการศึกษา

  • การช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติ เช่น น้ำท่วม โควิด-19

  • การพระราชทานสิ่งของและทรัพยากรเพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน

  • สนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในการพัฒนาประเทศตามแนวทาง "พอเพียง ยั่งยืน และมั่นคง"


🔹 ความสำคัญของวันที่ 28 กรกฎาคม

  • เป็น วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระมหากษัตริย์ไทย

  • เป็น วันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสร่วมแสดงความจงรักภักดี

  • เป็นโอกาสที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปจะจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างกว้างขวาง


🔹 กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

  • พิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล

  • พิธีถวายพระพรชัยมงคล

  • การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ

  • การประดับธงชาติและพระบรมฉายาลักษณ์ตามสถานที่ต่าง ๆ

  • กิจกรรมจิตอาสาเพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น เก็บขยะ ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญยิ่งของชาติไทย เนื่องจากเป็น วันเฉลิมพระชนมพรรษาของ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ซึ่งประชาชนชาวไทยต่างพร้อมใจร่วมแสดงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชน


🔹 พระราชประวัติ โดยสังเขป

  • พระนามเดิม: หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร

  • ประสูติ: วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ จังหวัดพระนคร

  • พระราชบิดา: พลเอก หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร

  • พระราชมารดา: หม่อมหลวงบัว กิติยากร

  • ทรงสมรสกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493

  • ดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระบรมราชินี และภายหลังได้รับการเฉลิมพระนามเป็น
    “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”


🔹 พระราชกรณียกิจที่สำคัญ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น

  • การส่งเสริมหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยเฉพาะการจัดตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ

  • การพัฒนาอาชีพให้แก่ราษฎร ในถิ่นทุรกันดาร เช่น งานปักผ้า ทอผ้า

  • การดูแลส่งเสริมสิทธิสตรีและเด็ก

  • การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

  • การปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในหลายโอกาส


🔹 ความสำคัญของวันที่ 12 สิงหาคม

  1. วันแม่แห่งชาติ – สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติและส่งเสริมความกตัญญูต่อมารดา

  2. เป็นวันหยุดราชการ – หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ

  3. กิจกรรมถวายพระพร – เช่น จุดเทียนชัยถวายพระพร การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมจิตอาสา

  4. การประดับธงชาติและธงพระราชินี ทั่วประเทศเพื่อแสดงความจงรักภักดี


🔹 ตัวอย่างกิจกรรมในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

  • พิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล

  • พิธีถวายพระพรชัยมงคล

  • นิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ

  • กิจกรรมมอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่น

  • จัดกิจกรรม “วันแม่” ในโรงเรียนและชุมชน

นโยบายการใช้ Cookies

เราอาจจะเราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและปรับปรุงบริการ โปรดคลิก "ยอมรับ" (ปุ่มสีเขียว) ในการเปิดใช้งาน Cookies และสามารถคลิก "นโยบายการใช้ Cookies" เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม